รวมความรู้ด้านสุขภาพ Health Knowledgeศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging

ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการ

เนื่องจากร่างกายไม่มีการสะสมน้ำ แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับน้ำทุกวันให้เพียงพอเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปขณะหายใจเข้าออก ปัสสาวะ และถ่ายอุจจาระ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วร่างกายต้องการน้ำ วันละ 1,500-3,000 มล. (50-100 ออนซ์) โดยที่

  • น้ำ 850-1,200 มล. (28-40 ออนซ์) จะสูญเสียไปกับการหายใจเข้าออก
    .
  • น้ำ 600-1.600 มล. (20-53 ออนซ์) จะถูกขับออกเป็นปัสสาวะ
    .
  • 20-200 มล. (1.6-6.6 ออนซ์) จะถูกขับถ่ายออกเป็นอุจจาระ

ประมาณ 15% ของน้ำที่ร่างกายต้องการ จะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีการย่อยและเผาผลาญเอาหาร

เนื่องจากผลิตผลขั้นสุดท้ายของกระบวนการย่อย และเผาผลาญอาหาร คือ คาร์บอนไดออกไซด์ (ของเสียขณะที่ร่างกายหายใจออก) และน้ำซึ่งประกอบด้วยไฮโดรเจนจากอาหาร และออกซิเจนจากอากาศขณะหายใจเข้า

น้ำส่วนที่เหลือได้มาจากการกินและดื่มในแต่ละวัน โดยร่างกายต้องการน้ำสะอาดประมาณ 8 แก้ว เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปในแต่ละวัน

เมื่อร่างกายขาดน้ำ

ทุกๆ วัน ร่างกายต้องการน้ำประมาณ 4% ของน้ำหนักตัว ถ้าคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอสำหรับทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป โดยธรรมชาติจากการหายใจ ปัสสาวะ และอุจจาระ ร่างกายจะแสดงสัญญาณเตือนของอาการขาดน้ำให้เห็นชัดเจน

ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำเพียงเล็กน้อยประมาณ 1% ของน้ำหนักตัว คุณจะมีอาการกระหายน้ำ และถ้าคุณยังไม่ยอมดื่มน้ำเข้าไป ร่างกายจะแสดงอาการขาดน้ำมากขึ้น

ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำประมาณ 2% ของน้ำหนักตัว ความอยากอาหารจะหายไป การไหลเวียนของเลือดจะช้าลง เมื่อน้ำซึมออกจากเซลล์เลือดและพลาสมา เมื่อนั้นคุณจะเกิดอาการหงุดหงิด และการรับรู้ไม่ถูกต้อง  

ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำประมาณ 4% ของน้ำหนักตัว (5 ปอนด์สำหรับผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัว 130 ปอนด์ และ 7 ปอนด์สำหรับผู้ชายที่มีน้ำหนักตัว 170 ปอนด์)

คุณจะมีอาการหน้ามืดตาลายเล็กน้อย ผิวหนังเริ่มแดง และจะรู้สึกเหนื่อยมาก มีอเท้าจะปวดเสียวคล้ายหนามแทง ปวดศีรษะ อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น หายใจเร็ว ชีพจรเต้นเร็ว และจะเริ่มมีอาการวูบลง


ถ้าร่างกายฐญเสียน้ำประมาณ 10% ของน้ำหนักตัว ลิ้นจะเริ่มบวมแข็ง ไตเริ่มไม่ทำงาน ตาลายจนไม่สามารถยืนได้ พร้อมๆ กับตาค่อยๆปิดลง และกล้ามเนื้อเป็นตะคริว

ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำถึง 15% ของน้ำหนักตัว หูจะเริ่มฟังไม่ได้ยิน ตามองไม่เห็น หนังตาปิด ผิวหนังและลิ้นหดตัว

ถ้าร่างกายสูญเสียน้ำมากถึง 20% ของน้ำหนักตัว ซึ่งเป็นจุดที่ร่างกายหมดความอดทน ผิวหนังจะแตก อวัยวะต่างๆ เริ่มหยุดทำงาน และเสียชีวิตได้

การที่ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง เรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกกำหนดสูตรสำหรับทดแทนอิเล็คโตรไลท์ ดังนี้

ถ้าคุณกำลังนอนหมดแรงอยู่บนที่นอนเนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำไปในรูปแบบใ ดรูปแบบหนึ่ง เช่น จากอาการท้องร่วง ร่างกายคุณจำเป็นต้องได้รับน้ำดังนี้

แก้วที่ 1: น้ำส้ม 8 ออนซ์ เกลือเล็กน้อย และสารที่ให้ความหวาน 1/2 ช้อนชา

แกัวที่ 2: น้ำกลั่นหรือน้ำต้มสุก 8 ออนซ์ และเบกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา

โดยค่อยๆ ดื่มเเก้วที่ 1 จนหมด จากนั้นจึงดื่มแก้วที่ 2 ไปจนหมด ถ้าหากอาการท้องร่วงยังไม่หาย คุณต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ส่วนปริมาณโซเดียม โปแตสเซียม และคลอไรด์สูงสุดในแต่ละวันที่ร่างกายต้องการ สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัว 70 กก. (154 ปอนด์) คือ โซเดียม 500 มก. โปตัสเซียม 2,000 มก. และคลอไรด์ 750 มก.

การอาเจียน และท้องร่วงทำให้น้ำ และอิเล็คโตรไลท์สูญเสียออกจากร่างกาย

ในทำนองเดียวกัน ร่างกายต้องการน้ำเพิ่มเติมเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปกับการหายใจออกขณะที่มีไข้สูง

เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำในระดับที่ก่อให้เกิดอันตราย ร่างกายจะสูญเสียอิเล็คโตรไลท์ที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิ และกระตุ้นปฏิกิริยาทางชีวเคมี ซึ่งน้ำธรรมดาจะไม่สามารถทดแทนอิเล็คโตรไลท์ที่สูญเสียไปได้

ดังนั้นคุณจึงควรไปพบแพทย์เมื่อร่างกายขาดน้ำ เพื่อที่จะได้ดื่มเครื่องดื่มตามที่แพทย์แนะนำ

Cr. คู่มือโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น