The Nutrition Talk – บทที่ 4 : บำบัดด้วยอาหาร บำบัดด้วยใจ โรคร้ายหายได้จริง
บทที่ 4 : บำบัดด้วยอาหาร บำบัดด้วยใจ โรคร้ายหายได้จริง
การเรียนเพื่อให้ได้เป็นนักกำหนดอาหาร จากรั้วจามจุรีนั้น
ต้องผ่านบททดสอบมากมาย
ทั้งเนื้อหาการเรียนที่เข้มข้น การสอบวัดผลที่แสนโหด
ถึงเรียนหนักจากตำราและการสอบมากมาย แต่ก้อยก็ไม่รู้หรอกนะว่า
สารอาหารที่ดี มันจะช่วยผู้ป่วยได้ตามที่เรียนมาจริงหรือ??
ก็เรื่องอาหาร ส่วนใหญ่ทุกคนๆ ก็คิดว่าเหมือนๆกันหมดแหละ
จนก้อยมามั่นใจมากๆ ก็ตอนได้มีประสบการณ์กับผู้ป่วยจริงๆ
โชคดีมาก ตั้งแต่ปี2 ทางภาควิชาก็จะมีฝึกงานด้านคลินิก
เป็นการฝึกงานในโรงพยาบาลจริงๆ ได้ทำหน้าที่ของนักกำหนดอาหารฝึกหัด
เพื่อให้โภชนบำบัดแก่ผู้ป่วย ช่วยสนับสนุนการรักษาของแพทย์
เพื่อให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้น
การฝึกงานในแผนกผู้ป่วยโรคมะเร็ง ถือเป็นแผนกที่ขึ้นชื่อว่าโหดเป็นอันดับต้นๆ
ตามที่รุ่นพี่ได้ลงมติไว้ เพราะเป็นโรคร้ายแรง รักษายาก
และมีโอกาสเสียชีวิตสูง อย่างที่ทุกคนรู้จักดี
ก็ตามคาด..ก้อยก็..โป๊ะเช๊ะ!!
เจอแผนกมะเร็งตั้งแต่ฝึกงานครั้งแรกเลย กังวลมากกกก….
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ทำให้ก้อยเกิดศรัทธา
และเชื่อมั่นในศาสตร์ของนักกำหนดอาหารจริงๆ
เพราะคุณลุงคนหนึ่งที่เป็นผู้ป่วยกรณีศึกษาในฐานะนักกำหนดอาหารฝึกหัดครั้งแรก
วันนั้นก้อยยังจำได้ดี เจอคุณลุงที่อยู่ในชุดคนไข้ นอนอยู่บนเตียง
มีเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับก้อยพยายามประคองคุณลุงให้นั่งพิงหัวเตียงอย่างทุลักทุเล
ภายหลังจึงรู้ว่า เป็นลูกสาวของคุณลุง
ตอนที่ก้อยจะเข้าไปแนะนำตัว ชี้แจงให้คุณลุงทราบว่า
ช่วงเวลา 3 สัปดาห์นี้ ก้อยจะดูแลเรื่องอาหารให้คุณลุงได้รับโภชนบำบัดที่เหมาะสม
เพื่อให้อาการของโรคดีขึ้น คุณลุงกลับทำสีหน้าไม่ต้อนรับใส่ งานแรกก็ทำให้ฝ่อซะแล้ว…
ไม่รู้ทำยังไง..ก็ต้องทำหน้าใจดีสู้เสือเข้าไว้..
ก็พอเข้าใจว่าป่วยเป็นมะเร็ง คงเครียด คงอารมณ์ไม่ดี
พอคุณลุงพยายามเปลี่ยนท่าจากนอนเป็นนั่งอย่างทุลักทุเล
ก้อยได้เสนอตัวเข้าช่วยประคองคุณลุง
คุณลุงก็ได้เปลี่ยนสายตาที่มองอย่างไม่ต้อนรับในตอนแรก
เป็นยิ้มให้ และเริ่มคุยตามปกติ
ค่อยยังชั่วววว..
คุณลุงเล่าว่า คุณลุงรักษาตัวในโรงพยาบาลมาหลายเดือนแล้ว
อาการมีแต่แย่ลงๆ คุณหมอจึงไม่อนุญาตให้กลับบ้าน
คุณลุงกินอะไรไม่ได้เลย รู้สึกเบื่ออาหาร ทำให้ยิ่งไม่มีแรง
น้ำหนักยิ่งลด สุขภาพทรุดโทรมลงเรื่อย จนรู้สึกเป็นภาระให้ลูกหลาน
วันแรกที่เจอกัน..สายตาคุณลุงดูเศร้ามาก
แก่ระบายเรื่องสุขภาพอยู่นาน จนก้อยเริ่มน้ำตาคลอ..
ไม่รู้อะไรดลใจ..ก้อยจึงรับปากกับคุณลุงที่จะจัดอาหารที่ทำให้คุณลุงกินได้
และช่วยให้แข็งแรงขึ้น และก้อยจะแวะมาเยี่ยมคุณลุงทุกวัน
เพื่อประเมินการทานอาหารของคุณลุงด้วยตัวเอง
ก้อยทำแบบนี้ทุกวันๆ โดยไม่มีวันไหนที่รู้สึกเบื่อที่จะแวะเข้ามาหาคุณลุง
คุณลุงกินข้าวได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถกินหมดทุกมื้อ
หลายอาทิตย์ถัดไป..ก้อยเข้าไปเยี่ยมคุณลุงเหมือนทุกวัน
คุณลุงมีสีหน้าที่สดชื่นมาก ดูสุขภาพดีกว่าวันแรกๆ มาก
“ลุงจะได้กลับบ้านแล้วนะ ลุงแข็งแรงขึ้นมาก อาการและผลเลือดอะไรก็ดีขึ้น
คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ลุงจะได้กลับไปหาลูกๆ หลานๆแล้ว”
ตอนนั้นก้อยรู้สึกหัวใจพองโต ดีใจจนบรรยายไม่ถูก
อาหารที่ก้อยคำนวนและกำหนดให้คุณลุงมันทำงานได้เป็นอย่างดีตามที่เรียนมาจริงๆด้วย
#อาหารเป็นยา #โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งดีขึ้นได้จริง
“ลุงขอบคุณหนูมากนะ ต่อไปหนูจะต้องเป็นนักกำหนดอาหารที่ดีและเก่งมากแน่ๆ”
ใบหน้าของคุณลุงที่ยิ้มพร้อมพูดประโยคที่ก้อยจะไม่มีวันลืม
จากประสบการณ์ครั้งนั้น ก้อยจึงสัญญากับตัวเองว่า
“ก้อยจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร
และเป็นนักกำหนดอาหารที่เก่งอันดับต้นๆ ของไทยให้ได้”
=================================================================