รวมความรู้ด้านสุขภาพ Health Knowledgeเรื่องเล่าสะกิดสุขภาพ Health Story

แพ้อาหาร

การแพ้อาหารเกิดขึ้นได้ง่ายกับคนทุกเพศทุกวัย และมีความสัมพันธ์กับอาการภูมิแพ้ เช่น เมื่อเกิดการแพ้อาหาร จะสามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่รุนแรง (คัดจมูกในวันรุ่งขึ้น) ไปจนถึงอาการรุนแรง (ระบบหายใจล้มเหลว) ได้

นอกจากนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีอาการแพ้อาหาร ก็มีแนวโน้มว่าคุณอาจจะมีอาการแพ้อย่างอื่นด้วย เช่น ฝุ่น ละออง เกสรดอกไม้ ขนแมว เป็นตัน ด้วยเหตุนี้ การรู้ว่าร่างกายเเพ้อะไรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และอาการเตือนล่วงหน้าก็เป็นการเตรียมตัวที่ดีอย่างหนึ่ง

การเเพ้อาหาร

ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้าสู่ร่างกายเช่น แบคทีเรีย แต่บางครั้งระบบภูมิคุ้มกันก็ตอบสนองต่อสารที่ไม่เป็นอันตราย อย่างเช่น

การแพ้อาหาร ร่างกายจะต่อสู้กับโปรตีนบางอย่างในอาหาร ซึ่งอาการแพ้อาหารโดยทั่วไป ได้แก่

มีไข้ คันตามผิวหน้า มีอาการบวมตามใบหน้า ลิ้น ริมฝีปาก มือ และเท้า เป็นลมพิษ ปวดศีรษะ/ไมเกรน คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงและอาจมีเลือดออก จาม ไอ หอบหืด หายใจลำบากเนื่องจากการบวมของเนื้อเยื่อในลำคอ และสูญเสียความรู้สึกตัว (อาการช็อคเนื่องจากภูมิแพ้)

ปฎิกิริยาการแพ้

ร่างกายจะตอบสนองต่อสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้แบบใดแบบหนึ่งใน 2 รูปแบบนี้ โดยทันที หรือในภายหลัง ได้แก่

  •  เกิดอาการแพ้ขึ้นทันที ซึ่งมีอันตรายมากกว่าเกิดอาการแพ้ในภายหลัง เพราะเกี่ยวข้องกับอาการบวมของเนื้อเยื่อ อาการแพ้ที่เกิดขึ้นทันทีอาจเกิดขึ้นภายใน 2-3 วินาที หลังกินอาหารเข้าไป หรือเพียงแต่ได้กลิ่นก็เกิดอาการต่อต้านอาหารทันที
    .
  • เกิดอาการแพ้ในภายหลัง คือ เกิดอาการภายใน 24-48 ชม.หลังจากกินอาหารเข้าไป ร่างกายจะต่อต้านอาหาร อาการจะรุนแรงน้อยกว่า อาจมีอาการแน่นจมูกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเนื้อเยี่อบวมซึ่งถ้าคุณมีอาการแพ้ที่มีผลกระทบต่อระบบหายใจ ก็ขอให้คุณรีบไปพบแพทย์โดยทันที

Cr. คู่มือโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น