รวมความรู้ด้านสุขภาพ Health Knowledgeสารอาหารบำบัดโรค Nutrition

ประโยชน์สาหร่ายเกลียวทอง Part 3

ประโยชน์สาหร่ายเกลียวทอง Part 3

สาหร่ายเกลียวทอง กับ อาการเมาค้าง

การย่อยสลายแอลกอฮอล์ในร่างกาย เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย เกือบทั้งหมดจะถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ส่งผ่านหลอดเลือดไปยังตับเพื่อกรองออกทิ้ง

หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มาก ตับจะทำงานลำบากและหนัก เพราะตับจะต้องขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

ใน 1 ชั่วโมง ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตับ จะสามารถขจัดออกได้ ประมาณ 10 มิลลิลิตร เท่านั้น

สำหรับคนที่สุขภาพตับแข็งแรง การดื่มเหล้าไม่เกิน 3 ออนซ์ต่อหนึ่งชั่งโมงนั้น ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะตับสามารถขจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้หมด

แต่ในความเป็นจริง น้อยคนนักที่จะคุมปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ของตนเองได้ บางคนไม่กินกับแกล้มระหว่างดื่ม ยิ่งส่งผลให้ร่างกายขาดโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และทำให้ตับอ่อนแอลง

รายงานจากแพทย์โนบุสุ อิจิมา ศาสตราจารย์ในโรงพยาบาลแห่งวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ เซนต์แมรี่แอนด์ ถ้าก่อนดื่มสุราทานสาหร่ายเกลียวทองประมาณ 4-5 เม็ด จะช่วยไม่ให้มีอาการเมาค้างได้  

สาหร่ายเกลียวทอง ช่วยลดพิษของสารปรอทและยาอันตรายที่มีผลต่อไตจากยาที่แพทย์จ่ายให้

หลายคนรู้อยู่แล้วว่า ไตมีหน้าที่กรองของเสีย(สารพิษ  เช่น โลหะหนัก ยาชนิดที่เป็นพิษต่อร่างกาย) ออกจากร่างกาย

นักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าหาสารที่จะช่วยให้ไต ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย โดยในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการนำหนูมาทดลอง

เมื่อนำสารละลายโลหะปรอทในระดับสูงฉีดใส่หนู พบว่า BUN เพิ่มขึ้นเป็น 310 % และเมื่อหนูได้รับสารอาหารที่ผสมสาหร่ายเกลียวทอง 30 % พบว่า BUN และ serum creatinine ลดลงอย่างรวดเร็ว

และเมื่อทดลองนำยาแก้โรคมะเร็ง cis-dichloro-diaminoplatinum  กับหนูทดลอง จากนั้นผสมสาหร่ายเกลียวทองกับอาหารให้หนู ปรากฎว่าสาหร่ายเกลียวทองช่วยลดระดับ BUN และ creatinine ได้อย่างมาก และมี 2 ราย ที่ค่า creatinine ลดลงสู่ระดับเดิม

จากการทดลอง พบว่า สาหร่ายเกลียวทองน่าจะมีผลต่อการขจัดสารพิษของโลหะหนัก และช่วยลดพิษของยา ที่มีผลต่อไตได้ด้วย มีการตั้งสมมุติฐานว่า ไฟโคไซยานิน (phycocyanin ) สารสีน้ำเงินที่อยู่ในสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน เป็นสารที่ทำหน้าที่ในการขจัดสารพิษ

สาหร่ายเกลียวทอง (ธาตุเหล็ก) กับการแก้ไขภาวะโลหิตจาง

ร่างกายของคนเราใช้ธาตุเหล็ก ในการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง

และเหล็กเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของกล้ามเนื้อ และเม็ดโลหิตแดง ซึ่งมีหน้าที่รับออกซิเจนจากที่เราหายใจผ่านปอดไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อไม่มีเหล็กร่างกายก็ไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้

ธาตุเหล็กเป็นธาตุที่ร่างกายมักจะขาดอยู่เสมอ มักพบมากในเด็ก คนชรา ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร 

และจากที่ผู้หญิงมักจะสูญเสียธาตุเหล็กจากการเป็นประจำเดือนทุกเดือน และการคลอดบุตร จึงพบว่าผู้หญิงเป็นโรคโลหิตจางมากกว่าผู้ชาย

สำหรับผู้หญิงวัย 15 – 50 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน

และผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป  ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน

มีการทำการทดลองเปรียบเทียบ ปริมาณธาตุเหล็กที่มีอยู่ในสาหร่ายเกลียวทองสีน้ำเงิน กับ อาหารเสริมธาตุเหล็กทั่วไป ซึ่งอยู่ในรูปของเหล็กซัลเฟต พบว่า

หนูที่กินสาหร่ายเกลียวทอง สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้มากกว่า หนูที่ให้กินอาหารเสริมธาตุเหล็กทั่วไป ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดถึงกว่า 60 %

ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการทดลองกับเด็กสาวจำนวน 8 คน ที่ลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร

เด็กเหล่านี้มีอาการเลือดจางอย่างอ่อน มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ 

แพทย์จ่ายสาหร่ายเกลียวทองให้ทาน มื้อละ 4 กรัม เป็นเวลา 30 วัน ติดต่อกัน เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นจาก 10.9 เป็น 13.2 

เนื่องจากสาหร่ายเกลียวทองมีธาตุเหล็กที่ร่างกายสามารถใช้ได้ในปริมาณมาก   และจากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าสาหร่ายเกลียวทองสามารถแก้ไขภาวะเลือดจางในหนูได้